วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กว่าจะได้เป็นครูมันแสนเหนื่อย

                                ที่มา :http://www.sskru.ac.th/2013/main.php

    ช่วงนี้มีข่าวที่เกี่ยวกับวงการของครูสองเรื่องใหญ่ๆ ที่ยึดครองพื้นที่สื่อ นั้นคือข่าวการสรุปผลการสมัครสอบครูผู้ช่วยที่มีผู้สมัคร 8 หมื่นกว่าราย แต่ตำแหน่งที่ว่างมีแค่ พันกว่าอัตรา โอ้แม่เจ้าทำไงจะสอบได้เนี้ย ซึ่งในการสอบรอบใหม่ต่างก็หาวิธีการที่จะไม่ให้มีการทุจริตในการสอบ และข่าวอีกเรื่องหนึ่งก็คือการสอบรอบก่อนที่มีการระบุว่าเกิดการทุจริตกันอย่างเป็นขบวนการลึกลับซับซ้อนไม่ต่างจากหาเหล็กไหลในถ้ำ ซึ่งเจ้าภาพหลักในการหาคือ DSI ( Department of Special Investigation)นั้นคือกรมสอบสวนคดีพิเศษแห่งราชอาณาจักรไทย สังกัดกระทรวงยุติธรรม โดยล่าสุดพบว่ามีคนรับสารภาพว่าได้
จ่ายเงิน 4-6 แสน แลกกับเฉลยข้อสอบ โอ้แม่เจ้า!!! คนจนๆเก่งๆแต่ไม่มีเงิน จะได้เป็นครูไหมน้อ
    ถ้าเกิดการเข้าไปเป็นครูด้วยการเสียเงิน แล้วครูที่ได้จะเป็นแม่พิมพ์พ่อพิมพ์ที่ได้ไหมน้อ ผู้เขียนเคยได้รับสมุดจรรยาบรรณของความเป็นครู ภายในเล่มจะจรรยาบรรณ ตัวอย่างที่ทำแล้วผิดจรรยาบรรณ และล่าสุดผู้เขียนได้ไปสถาบันที่ทำหน้าที่ผลิตครู สถาบันแห่งนี้มีการติดข้อความเป็นต้นไม้เห็นแล้วอยากแชร์ให้ผู้ที่ได้ทำหน้าที่ในแวดวงการศึกษาปฏิบัติให้ได้ตลอดจนเกษียณอายุราชการนะครับถ่ายมาแค่ 3 ภาพที่คิดว่าโดนที่สุด ดังนี้
      ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์จากการนินทาของเพื่อนถึงครูคนหนึ่งที่เรียกรับผลประโยชน์ หรืออยากได้สิ่งของจากนักศึกษา ถ้าทำได้คงไม่มีข่าวขอนอนกับนักศึกษาเพื่อให้เกรดดีขึ้นแน่นอน
     อันนี้ก็เคยมีประสบการณ์อีกเช่นกัน ได้ยินลูกศิษย์นินทาครูอีกเช่นเคย เช่นถ้าลูกศิษย์ที่ไม่ชอบขี้หน้าจะต้องกดเกรดเข้าไว้ แต่สำหรับคนที่ชอบพอ แม๊มาลอกฉันแต่เกรดทำไมดีกว่าฉัน
    อันนี้ลูกศิษย์ก็เคยระบายความในใจว่าถูกครูผู้สอนบังคับให้เชื่อตามที่ครูบอก ห้ามเถียง ประเภทข้อ 1ครูถูกเสมอ -ข้อ 2 ครูทำอะไรไม่ผิด ถ้าไม่เข้าใจให้กับไปดูข้อ 1 ใหม่ การสร้างกรงขังทางความคิดของเด็กจะดีในแง่การปลูกฝังให้รักชาติ มีระเบียบวินัย แต่ใช้ไม่ได้ดีในการสร้างจินตนาการหรือความคิดเชิงสร้างสรรค์
         สรุป ถ้าเป็นครูเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าจะสอบได้ การเป็นครูที่มีจิตสำนึก มีจิตวิญญาณของความเป็นครูนั้นยากยิ่งกว่าครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น