ณ
ปัจจุบันนี้การเมืองของไทยร้อนระอุ ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างยิ่งในสัปดาห์นี้
บรรยากาศที่ควรจะเป็นนั้นควรอยู่ในช่วงเตรียมตัวเฉลิมฉลองเนื่องในวันพ่อ
แกนนำอย่างคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ นั้นมีการยัดเยียดข้อหาพร้อมมีหมายจับข้อหากบฎ
ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยกับนักวิชาการบางท่านที่ออกมาแสดงความเห็นว่าตั้งข้อหารุนแรงเกินไป
งั้นเรามาดูตัวบทกฎหมายกันดีกว่าครับ
ประมวลกฎหมายอาญา
หมวด 2
ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร
มาตรา 113
ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1)
ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ
อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้
หรือ
(3)
แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
กรณีของคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นักวิชาการบางท่านออกมาพูดว่าตั้งข้อหารุนแรงเกินไป
ถ้าตีความก็หมายความว่าการกระทำของคุณสุเทพไม่ถึงกับมีความผิดฐานกบฎ
ถ้าดูการเรียกร้องของคุณสุเทพ ข้อที่ 1 ไม่ได้ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
ข้อที่ 2 ก็ไม่ใช่เพราะเห็นว่าถึงแม้นายกฯจะยุบสภาแกก็ไม่ยอม ส่วนข้อ 3
แกก็ไม่ได้แบ่งแยกราชอาณาจักร
ฉะนั้นข้อคงมีการตีความว่าการกระทำน่าจะเข้าข้อที่
3 ซึ่งคงมาจากที่แกบอกว่าจะตั้งสภาประชาชน
การตั้งสภาประชาชนคงจะหมายถึงล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร
ส่วนหนึ่งข้อเรียกร้องหนึ่งของแกคือล้างระบอบทักษิณ
ผมฟันธงว่าแกตายและเกิดอีกสิบชาติ ก็ล้างไม่ได้หรอก
เพราะระบอบทักษิณเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ แม้ตัวทักษิณเอง ก็ยังจับไม่ได้
มิหนำซ้ำยังมีนายตำรวจใหญ่ รัฐมนตรี ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน
แห่แหนไปเยี่ยมเยียนอีกต่างหาก
สรุปแล้วผู้เขียนเห็นว่าการกระทำของคุณสุเทพน่าจะเข้ามาตรา 116 และมาตรา117
มีข้อความดังนี้
มาตรา 116
ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ
หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ
หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต
(1)
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล
โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย
(2)
เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน
ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ
(3)
เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
มาตรา
117 ผู้ใดยุยงหรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วม กันปิดงานงดจ้าง
หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจ กับบุคคลใด ๆ
เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อ
บังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดทราบความมุ่งหมายดังกล่าวและเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการ
ร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้างหรือการร่วมกันไม่ยอมค้า
ขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใด ๆ นั้น ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินสามปี
หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดทราบความมุ่งหมายดังกล่าว และใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญ
ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือทำให้หวาดกลัวด้วยประการใด ๆ เพื่อ
ให้บุคคลเข้ามีส่วนหรือเข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิด
งานงดจ้างหรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขายหรือติดต่อทางธุรกิจกับ บุคคลใด ๆ นั้น
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น