วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556

กินข้าวทุ่งนุ่งผ้าไหม (การท่องเที่ยวเชิงเกษตร)

     วันนี้ได้เดินทางไปเยี่ยมพ่อ ซึ่งเกิดอุบัติเหตุหกล้มข้อมือหัก ต้องใส่เฝือก บ้านของพ่ออยู่บ้านกู่กาสิงห์ อ.เกษตรวิสัย จ.หวัดร้อยเอ็ด คุณพ่อไม่ได้เกิดและเติบโตที่นี้ แต่ท่านมาได้ภรรยาใหม่ที่นี้ อยู่มาได้ประมาณสิบกว่าปี
      บ้านกู่กาสิงห์แห่งนี้ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งการชูให้ผู้ที่ต้องการมาเที่ยวที่นี้ได้สัมผัสบรรยากาศลูกทุ่งสบายๆ โดยให้นักทักเที่ยวได้นุ่งผ้าไหม และไปกินข้าวที่ทุ่งนา (ข้าพเจ้าไม่เคยได้นุ่งผ้าไหม แต่ได้กินข้าวที่ทุ่งนา อาหารนั้นไม่ต้องบรรยาย ไปเอาปลาที่ตกคลักซึ่งภาษาอีสานเรียกว่าปลาข่อน มาจี่ หรือเผาไฟกินกับปลาร้าบอง)
      บ้านกู่กาสิงห์ทางเข้าหมู่บ้านจะติดถนนสายนครราชสีมา - ยโสธร ถ้ามาจากตัวอำเภอเกษตรวิสัยจะมุ่งหน้าไปอำเภอสุวรรณภูมิ ประมาณ 8 กิโลเมตร เมื่อเลี้ยวเข้าหมู่บ้านจะเห็นป้ายบอกทางว่าจะต้องเข้าไปอีก 10 กิโลเมตร
     
 กองหินที่อยู่นี้ไม่รู้ว่าเป็นส่วนไหนของกู่กาสิงห์ซึ่งได้กองไว้อย่างนี้ตั้งนานแล้ว เท่าที่จำได้กองไว้อย่างนี้ไม่น้อยกว่าสิบปี
       ข้างๆกู่กาสิงห์มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์บ้านกู่กาสิงห์ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลตำบลกู่กาสิงห์ วันที่ไปไม่มีเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้าเยี่ยมชม
    เป็นป้ายสำหรับใครอยากทราบข้อมูลผ่านระบบ 3 G
  องค์กู่กาสิงห์ อายุราว พ.ศ. 1560-1630 สมัยขอม เหตุที่ได้ชื่อว่ากู่กาสิงห์จากการสอบถามทราบว่าเพราะมีรูปปั้นสิงห์ ซึ่งได้หายไปตั้งนานแล้วและไม่ปรากฏว่าอยู่ที่ไหน ปัจจุบันได้มีการปั้นจำลองไว้ตรงทางเข้าหมู่บ้าน นอกจากจะมีกู่กาสิงห์แล้วหมู่บ้านนี้ยังมีกู่โพนระฆัง ซึ่งปัจจุบันกำลังบูรณะซ่อมแซมและกู่โพนวิจ ซึ่งปัจจุบันเหลือร่องรอยน้อยมาก แทบจะไม่เห็นเค้าว่าเป็นกู่
     ขากลับแวะช้อปปิ้งที่ประตูน้ำร้อยเอ็ดครับ

  ป้ายขนาดใหญ่ เป็นแหล่งขายเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าอื่นๆ คงจำลองมาจากประตูน้ำกรุงเทพมหานคร ซึ่งเมื่อวานก็ไปประตูน้ำขอนแก่นมา ราคาสินค้าใช่ว่าถูกหรือว่าเป็นเพราะนโยบายค่าแรง 300 บาท
  นอกจากนี้ยังแวะเยี่ยมชมสถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ ไม่มีค่าเข้าเยี่ยมชม ฟรีครับ เปิดวันพุธถึงวันอาทิตย์


 ป้ายบอกที่มาที่ไปว่าสถานที่ที่นี้เกิดขึ้นเพราะใคร (ท่านอนุรักษ์ จุรีมาศ) ค่าก่อสร้างไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้านบาท
               

  จุดเด่นคือมีการทำอุโมงค์ เวลาดูปลาเสมือนหนึ่งได้ดูใต้น้ำ ครับ
  สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำอยู่ติดบึงพลาญชัย สามารถมองเห็นซุ้มประตูเมืองสาเกตนคร ซึ่งเมืองร้อยเอ็ดเดิมชื่อเมืองสาเกตนคร มีความเจริญรุ่งเรือง มีเมืองขึ้นถึง 11 เมือง โครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมคลิ๊ก (http://www.rd.go.th/roiet/44.0.html)
 บึงพลาญชัย หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ด มีการจัดทำสวนสาธารณะ ถือเป็นปอดของชาวร้อยเอ็ด
                               หนึ่งในกิจกรรมที่มาบึงพลาญชัย ให้อาหารปลาและนก

  ที่จริงในตัวเมืองร้อยเอ็ดยังมีที่เที่ยวหลายแห่งที่สำคัญเช่นพระใหญ่ วัดบูรพาราม หรือพิพิธภัณฑ์สถานร้อยเอ็ดเป็นต้น ว่างๆก็ลองแวะไปเที่ยวชมนะครับ





 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น